สำนักศิลปะและวัฒนธรรม

มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธานพิธีถวายราชสดุดีในงาน “วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระมหาเจษฎาราชเจ้า” ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ณ ห้องประชุมชูพันธ์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย งานถวายราชสดุดีในโอกาสระลึกพระมหาเจษฎาราชเจ้า ณ วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระมหาเจษฎาราชเจ้า” ประจำปี 2568 ได้รับเกียรติร่วมพิธีโดยคณบดีและเจ้าหน้าที่สำคัญของภาคการศึกษาและภาครัฐ ในพิธีดังกล่าว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กมลนาวิน อินทนุจิตร รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย นายเอนกคุณ มีชัย หัวหน้างานบริการและพัฒนานักศึกษา จังหวัดสงขลา ได้ร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ ในขณะที่ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ดำรงตำแหน่งประธานพิธีเป็นเกียรติสำคัญของงาน ในพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ถวายราชสดุดีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมย้ำถึงพระคุณและพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่าของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงมีพระบรมราชคุณูปการแก่ประเทศและประชาชนโดยนับไม่ถ้วน ตั้งแต่การรักษาสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจ การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ปรับปรุงระบบภาษี และพระราชทานเบี้ยหวัดเงินเดือนแก่ข้าราชการเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างวัดกว่า 30 แห่ง ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมพระพุทธศาสนาและการศึกษาอย่างยิ่ง โดยจารึกความรู้ต่างๆ ไว้ในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่รู้จักกันในนาม “มหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย” ยิ่งไปกว่านั้น ในส่วนการรักษาความมั่นคงของประเทศ พระองค์ทรงยึดหลักการรักษาศักดิ์ศรีแห่งชาติเป็นสำคัญ พร้อมทั้งทุ่มเทป้องกันข้าศึกที่พยายามแผ่อิทธิพลเข้ามาทำลายความสงบสุขภายในพระราชอาณาเขต โดยการส่งกองทัพไปปราบปรามและทำลายฝิ่น ยาที่เป็นภัยร้ายในสมัยนั้น เพื่อปกป้องพสกนิกรจากหายนะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของชาติ อีกทั้ง พระองค์ยังทรงพระราชทานเสรีภาพและพระราชทรัพย์ให้กับหมู่พระบรมราชวงศ์มุขอำมาตย์และข้าราชการ พร้อมทั้งจัดสรรทรัพย์สินเพื่อใช้ในการบำรุงพระอารามที่ยังค้างอยู่ ซึ่งส่วนที่ทรงเก็บรักษาไว้ในถุงแดงจำนวนหลายหมื่นชั่ง ได้ถูกนำมาใช้เป็นค่าชดใช้ในกรณีพิพาทดินแดนกับฝรั่งเศสในสมัย ร.ศ. ร้อยสิบสอง โดยพระราชกรณียกิจตลอด 27 ปีแห่งการครองราชย์ของพระองค์ ได้สร้างรากฐานแห่งความเจริญวัฒนธรรมและสวัสดิการให้กับชาติอย่างยั่งยืน ภาพประกอบ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา